วันนี้นั่งดูละครกับที่บ้านก็รู้สึกสบายใจหัวเราะร่วนไปในระหว่างการดู ตอนแรกที่มันเริ่มฉาย รู้สึกไม่ชอบเรื่องนี้เอามากๆ รู้สึกว่าตัวละครยังไม่ใช่ บทที่เขียนก็ยังไม่ใช่ ดูมันติดๆ ขัดๆ ตะกุกตะกัก ไม่กลมกล่อมไม่ครบรสอย่างไรก็ไม่รู้ แต่พอเริ่มไปฟังกระแสจากคนอื่นๆ ก็ทำให้ทราบว่ามันก็ได้รับความนิยมใน อ่างอาบน้ำ ราคา ถูก อยู่ไม่น้อย คนส่วนใหญ่ชอบเพราะเป็นละครเบาสมอง ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายแต่ก็ขำแบบมีสาระบ้างไม่มีบ้างปะปนกันไป ทีนี้ก็เลยทนกระแสรอบข้างไม่ไหว ก็เลยต้องนั่งดูต่อไปบ้าง ซักพักก็รู้สึกคล้อยตาม ถึงแม้เราจะไม่ชินกับอารมณ์ของละคร แต่ก็ต้องยอมรับว่า มันก็สนุกไปอีกแบบ และก็ฮาได้เรื่อยๆ เช่นเดียวกัน ตัวอย่างของวันนี้ก็เป็นตอนที่คุณแม่ของทางฝั่งพระเอก อยากให้ลูกของตัวเองแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเสียที ยิ่งไปกว่านั้น คุณแม่ของเขาก็ได้ถูกใจลูกสาวของเพื่อนสนิทเป็นอย่างมาก ถึงขั้นที่ไปทาบทามกับคุณแม่ฝ่ายหญิงเอาไว้แล้วว่าอยากจะได้มาเป็นลูกสะใภ้ ทางฝ่ายหญิงก็ไม่ได้ขัดอะไร เพราะก็ถูกใจชอบพอ อ่างเป่าลม ผู้ใหญ่ กันทั้งแม่ทั้งลูก อีกทั้งฐานะทางบ้านฝ่ายชายนั้นก็ร่ำรวย สามารถดูแลลูกสาวให้อยู่อย่างสุขสบายไปตลอดชีวิต แต่ติดตรงที่ลูกสาวของตัวเองนั้นกำลังคบหาดูใจอยู่กับชายอื่น ซึ่งชายคนนั้นคุณแม่ก็ไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก เพราะความรู้สึกนึกคิดและทัศนคติเขานั้นค่อนข้างแปลก เหมือนเป็นผู้ชายที่มาเกาะผู้หญิงกิน ไม่มีความเป็นผู้นำ ไม่เป็นหัวหน้าครอบครัว อีกทั้งยังพยายามขอตังค์ผู้หญิงใช้อย่างหน้าด้านๆ ไร้ยางอายอีกด้วย เอาที่นึกออกก็มีหลายกรณี เช่นไปซื้อของที่ห้าง เพื่อจะนำมาแต่งบ้าน ในระหว่างที่เดินซื้อก็คุยโวโอ้อวด บอกว่าจะเอาไปจัด อ่างอาบน้ําพับได้ ไม่ให้อายพวกเศรษฐี และคุยฟุ้งไปทั่วห้างว่าจะจ่ายเงินสด เขาไม่ชอบใช้บัตรเครดิต ไม่ชอบเอาเงินในอนาคตมาใช้และวันนี้เขาก็ถอนเงินสดมามากพอที่จ่ายของที่ซื้อมาทั้งหมดได้ แต่ไม่ทันไร เมื่อไปถึงเคาท์เตอร์สจ่ายเงิน เขาก็เห็นป้ายลดราคาสิบเปอร์เซ็นต์ถ้าจ่ายด้วยบัตรเครดิต เมื่อเขาเห็นก็ตาโตตื่นเต้นกับส่วนลดที่จะได้รับ และหันไปถามแฟนสาวว่าคุณมีบัตรนี้ใช่ไหม งั้นจ่ายให้ก่อนนะ แล้วก็วิ่งไปหยิบเพิ่มเนื่องจากเห็นว่าได้ลดราคาเยอะ หารู้ไม่ว่า ทุกครั้งที่เขามาไม้นี้ เขาไม่เคยจ่ายเงินเหล่านั้นกลับให้นางเอกเลย การกระทำของเขาก็ไม่ต่างอะไรกับแมงดาเกาะผู้หญิงใน อ่างอาบน้ำขนาดเล็ก เพื่อความสบายของตัวเอง ไม่เข้าใจว่านางเอกยังทนคบอยู่ได้อย่างไร ในหัวสมองเขาก็คิดอยู่อย่างเดียวคืออยากรวบหัวรวบหางนางเอก เหมือนที่ผู้ชายคนอื่นๆ เขาทำกัน หลังจากซื้อของเสร็จแล้ว ฝนตกหนักมาก แฟนหนุ่มสั่งให้แฟนสาวขับรถไปส่งบ้านตัวเอง พอถึงบ้านเขาก็ทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำอางค์กลัวเปียก เลยบอกให้ฝ่ายหญิงเป็นคนไปเปิดประตูบ้านและขับรถเข้าไป ทำให้ตัวเขานั้นเดินเข้าบ้านอย่างตัวแห้ง สบายๆ แถมไม่ยกของลงมาอีกต่างหาก เขาสั่งให้แฟนยกของทั้งหมดเข้าบ้าน ดูเป็นสุภาพบุรุษเอามากๆ น่าเกลียดที่สุด แต่ผู้หญิงก็แสนดี ยอมทำตามใน อ่างสปาแช่ตัว แบบไม่บ่นซักคำ ดูไปก็แอบงงว่า เธอทนทำทั้งหมดได้อย่างไร ไม่เคยได้ความดีอะไรจากชายผู้นี้เลยสักนิด ขากลับรถของเธอเสี่ยระหว่างทาง ซอยบ้านชายคนนี้เปลี่ยวมาก อีกทั้งน้ำยังท่วมทุกครั้งที่ฝนตก เมื่อเธอโทรหาแฟนหนุ่ม ซึ่งคิดว่าจะเป็นที่พึ่งในยามเดือดร้อน ก็ได้ฟังคำพูดอันเห็นแก่ตัวอย่างหน้าด้านๆ ว่า ฝนตกขนาดนี้จะให้เขาลำบากออกไปตากฝนทำไม ออกไปก็ช่วยอะไรไม่ได้ ให้นางเอกรออยู่ในรถแห้งๆ และหาหนทางเรียกช่างมาซ่อมเอาเองแล้วกัน ส่วนเขาก็นอนดูทีวีอย่างสบายใจและไม่มีความเป็นห่วงเลยสักนิด เธอจึงต้องโทรไปหาคุณพ่อของเธอที่กำลังแช่ใน อ่างอาบน้ํา ซึ่งในขณะนั้นก็อยู่กับพระเอกด้วย เมื่อเขาได้ทราบเรื่องทั้งหมดจึงดีใจและอาสาจะช่วยจัดการปัญหาทุกอย่างให้เอง เขาขับรถมาที่ซอยเปลี่ยวนั้นพร้อมทั้งกล่องเครื่องมือ เขาเดินตากฝนมาช่วยนางเอกที่กำลังอกสั่นขวัญแขวนและกลัวอยู่ไม่น้อย เธอรู้สึกดีใจและอุ่นใจมากเมื่อเห็นหน้าเขา ถึงแม้สองคนนี้จะไม่ถูกกัน แต่เราเชื่อว่าลึกๆ แล้วเธอก็รู้สึกว่า ชายคนนี้จะไม่ทำร้ายเธอหรือทำให้เธอเดือดร้อนอย่างแน่นอน เมื่อเขาดูอาการก็รู้ว่าตนเองซ่อมไม่ได้แน่ๆ จึงโทรสั่งให้อู่ของเพื่อนที่อยู่แถวนั้นมายกรถไปซ่อม ส่วนตัวเขาก็ขับรถพานางเอกมาหาข้าวกินอย่างโรแมนติก เขาวางแผนไว้หมดแล้วและสั่งจองร้านส่วนตัวพร้อมนักเปียโน ดีดกล่อมเพลงบรรเลงคละเคล้าไประหว่างการรับประทานอาหาร ทำให้ทั้งคู่ได้มีช่วงเวลาดีๆ อยู่ด้วยกันสองต่อสองและทำให้เห็นความดีซึ่งกันและกันมากขึ้น